เวลาปัจจุบัน

จำนวนผู้เข้าชม

install tracking codes
Visitors Total

ปฏิทิน


บทที่ 2 : ประวัติความเป็นมา >>>

2.1) ประวัติความเป็นมาของพระไตรปิฏก

     การกล่าวถึงความเป็นมาแห่งพระไตรปิฎก จำเป็นต้องกล่าวถึงเหตุการณ์ตั้งแต่ยังมิได้จารึกเป็นลายลักษณ์อักษร รวมทั้งหลักฐานเรื่องการท่องจำ และข้อความที่กระจัดกระจายยังมิได้จัดเป็นหมวดหมู่ จนถึงมีการสังคายนา คือจัดระเบียบหมวดหมู่ การจารึกเป็นตัวหนังสือ
การพิมพ์เป็นเล่ม

     ในเบื้องต้น เห็นควรกล่าวถึงพระสาวก 4 รูป ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับประวัติความเป็นมาแห่งพระไตรปิฎก คือ

     2.1.1) พระอานนท์ ผู้เป็นพระอนุชา และเป็นผู้อุปฐากรับใช้ใกล้ชิดของพระพุทธเจ้า ในฐานะที่ทรงจำพระพุทธวจนะไว้ได้มาก

     2.1.2) พระอุบาลี ผู้เชี่ยวชาญทางวินัย ในฐานะที่ทรงจำวินัยปิฎก 

     2.1.3) พระโสณกุฏิกัณณะ ผู้เคยท่องจำบางส่วนแห่งพระสุตตันตปิฎก และกล่าวข้อความนั้นปากเปล่า ในที่เฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า ได้รับสรรเสริญว่าทรงจำได้ดีมาก ทั้งสำเนียงที่กล่าวข้อความออกมาก็ชัดเจนแจ่มใส เป็นตัวอย่างแห่งการท่องจำ ในสมัยที่ยังไมมีการจารึกพระไตรปิฎกเป็นตัวหนังสือ 

     2.1.4) พระมหากัสสป ในฐานะเป็นผู้ริเริ่มให้มีการสังคายนา จัดระเบียบพระพุทธวจนะให้เป็นหมวดหมู่ มีความเกี่ยวโยงไปถึงพระพุทธเจ้า พระสาริบุตร และพระจุนทะ ซึ่งเคยเสนอให้เห็นความสำคัญของการทำสังคายนาคือ จัดระเบียบคำสอนให้เป็นหมวดหมู่

2.2) ประวัติความเป็นมาของพระไตรปิฏก (สมัยพุทธกาล)

     การรวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้าเริ่มขึ้น เมื่อครั้งที่นิครนถนาฏบุตร ศาสดาของศาสนาเชนสิ้นชีวิตลง และสาวกของท่านไม่ได้เก็บรวบรวมคำสอนไว้ ทำให้เหล่าผู้นับถือศาสนาเชนเกิดการแตกแยกและถกเถียงกันว่า แท้จริงแล้วศาสดาของตนสอนไว้เช่นไร พระจุนทเถระทราบเรื่องจึงนำความขึ้นกราบทูลพระพุทธเจ้า พระองค์จึงได้ตรัสแนะนำให้พระสงฆ์ทั้งปวงร่วมกันทำสังคายนา เพื่อรักษาคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป

     เมื่อพระสารีบุตรทราบถึงเรื่องราวปัญหาของศาสนาเชน ก็ได้แสดงวิธีสังคายนาไว้เป็นตัวอย่างต่อหน้าที่ประชุมคณะสงฆ์ โดยรวบรวมข้อธรรมต่างๆ ให้อยู่ตามลำดับหมวด ตั้งแต่หมวดหนึ่ง ไปจนถึงหมวดสิบ เมื่อพระสารีบุตรแสดงธรรมจบแล้ว พระพุทธเจ้าก็ทรงประทานสาธุการแก่หลักธรรมที่พระสารีบุตรแสดงไว้

     ทั้งนี้ ในสมัยพุทธกาล ยังไม่มีการรวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นพระไตรปิฎก แต่ก็มีคำเรียกพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า พฺรหฺมจริย หรือพรหมจรรย์ และ ธมฺมวินย หรือธรรมวินัย

     หลักธรรมที่พระสารีบุตรได้แสดงไว้นี้ จัดเป็นพระสูตรหนึ่งเรียกว่า สังคีติสูตร (พระสูตรว่าด้วยการสังคายนา หรือสังคีติ) เป็นตัวอย่างที่พระอัครสาวกคือ พระสารีบุตรได้กระทำไว้ แต่ท่านพระสารีบุตรเองได้ปรินิพพานไปก่อนพระพุทธเจ้า ดังนั้นเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ภาระจึงตกอยู่กับพระมหากัสสปเถระ ซึ่งตอนที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานนั้น เป็นพระสาวกผู้มีอายุพรรษามากที่สุด

บรรณานุกรม (Bibilography) >>>

1) "ความเป็นมาของพระไตรปิฎก". 2558. ความเป็นมาของพระไตรปิฎก. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.larnbuddhism.com/
tripitaka/abouttripitaka/from.html. 28 ธันวาคม 2558
2) วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. 2558. พระไตรปิฎกภาษาบาลี. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/พระไตรปิฎกภาษาบาลี. 28 ธันวาคม 2558
3) วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. 2558. สังคายนาในศาสนาพุทธ. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/สังคายนาในศาสนาพุทธ. 28 ธันวาคม 2558

กลับไปยังหน้า "พระไตรปิฎก" >>>

หน้าแรก | ความเป็นมา | ข่าวและกิจกรรม | เที่ยวชมวัด | บรรยายธรรม | บทสวดมนต์ | ติดต่อวัด | กลับขึ้นด้านบน
สงวนลิขสิทธิ์ ปี 2559 โดยมูลนิธิสิรินธรราชวิทยาลัย ในพระราชูปถัมภ์
จัดทำ ออกแบบและดูแล Website โดย นายรังสิมันตุ์ วงษ์นิกร

Free Web Hosting